การมีคนป่วยในครอบครัว คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว การจะมีคนป่วยในบ้านก็ถือว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง อย่างไรก็ดี หากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากจะดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้เปี่ยมปด้วยประสิทธิภาพ โดยที่ใจของตนเองไม่บุบสลายไปเสียก่อน การดูแลสุขภาพจิตของตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายพร้อมๆ กันกับการดูแลสุขภาพจิตไปด้วยนั้นมีหลักการดังต่อไปนี้
1.หมั่นหากิจกรรมผ่อนคลายทำ
อาจจะมีบ้างบางเวลาที่ผู้ป่วยนอนหลับหรือว่าพักผ่อน ทางที่ดีที่สุด ก็คือคุณควรเลือกหากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การหาหนังสืออ่าน หรือว่าซีรีย์ดูเพื่อผ่อนคลายไปเป็นระยะๆ จะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้จิตใจเกิดความตึงเครียดได้อีกด้วย การหากิจกรรมผ่อนคลายทำไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่อย่างใด สำคัญแค่เพียงว่าเราต้องหาทางบาลานซ์จิตใจของเราก่อน ไม่เช่นนั้น หากว่าเราไม่สบายไปด้วย ใครจะเป็นคนที่ทำหน้าที่ดูแลใช่หรือไม่
2.ทำอาหารอร่อยๆ กิน
นอกจากจะทำอาหารให้คนป่วยได้ลองกินไปแล้ว การเลือกทำอาหารอร่อยๆ ให้ตนเอง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยคุณไม่ควรกินอาหารเหมือนกับคนป่วย เพราะคนป่วยระยะสุดท้ายนั้น โดยปกติก็จะมีความกังวลและความตึงเครียดอยู่แล้วนั่นเอง หากว่าเรามีความตึงเครียดด้วย และกินอะไรไม่ลงก็พลอยทำให้ตนเองเสียสุขภาพไปด้วยเลยทีเดียว
3.หาโอกาสออกไปพักผ่อนนอกบ้านบ้าง
สำหรับสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การหาโอกาสไปพักผ่อนนอกบ้านบ้าง เพราะว่าการพักผ่อนนอกบ้านถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณได้เบรกจากความตึงเครียดมาก่อนนั่นเอง อย่างไรก็ดีการหาโอกาสไปพักผ่อนนอกบ้าน อาจจะเป็นแค่เพียงการไปพักผ่อนที่ร้านกาแฟใกล้ๆ บ้าน หรือว่าใครจะเลือกเป็นการไปพักผ่อนที่ชายทะเล หรือออกต่างจังหวัดก็ตามแต่อัธยาศัย
4.ฝึกจิตให้หายเครียด
การฝึกจิตใจให้หายเครียดคือสิ่งที่จำเป็น เพราะแม้เราจะหลบไปที่ไหนก็ไม่ได้แปลว่าเราจะมีความสุขมากกว่าเก่า หากใจของเรายังคิดแบบเดิม ทางที่ดีที่สุด ควรเลือกฝึกจิตให้หายเครียดจะดีกว่า
และนี่ก็คือการปรับสุขภาพจิตใจเวลาดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้มีความสุขกว่าเดิม การเลือกฝึกจิตใจให้หายจากความตึงเครียด ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก รับรองได้เลยว่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็นหากต้องรับภาระนี้ไปนานๆ จะดีแค่ไหนหากว่าเราทำจิตใจของเราให้ดีกว่าเดิม และไม่ต้องกังวลใจแต่อย่างใด
